ตำนานและความสำคัญของพญาไก่แดงในวิถีชีวิตไทย
พญาไก่แดง เป็นหนึ่งในตำนานสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีความหมายลึกซึ้งในพระพุทธศาสนา ตามตำนานเล่าขานถึงความพยายามและความจงรักภักดีของพญาไก่แดงที่มีต่อพระพุทธเจ้ากัสสะปะพุทธเจ้า ซึ่งความจงรักภักดีนี้ได้นำมาซึ่งบุญบารมีและความสำเร็จในชีวิตในระดับหนึ่ง ว่านพญาไก่แดงจึงถือเป็นว่านศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์และมีความเป็นมาที่น่าสนใจและลึกลับ
การค้นพบและครอบครองว่านพญาไก่แดงไม่ได้เป็นเพียงการถือครองวัตถุศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบสานความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต ในบทความนี้ เราจะสำรวจถึงตำนานของพญาไก่แดงและความเป็นมาของว่านพญาไก่แดง รวมถึงวิธีการใช้และความสำคัญทางจิตวิญญาณของว่านชนิดนี้
หัวข้อ
พญาไก่แดง
พญาไก่แดง เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่มีตำนานกล่าวถึงในสมัยของการสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระพุทธเจ้ากัสสะปะพุทธเจ้า ตามตำนานเล่าว่า ในครั้งนั้นพญาไก่แดงได้ใช้ความพยายามในการเก็บฟางข้าวมาทำที่ประทับรองนั่งให้พระพุทธเจ้ากัสสะปะก่อนจะสำเร็จและยังเฝ้าระวังสัตว์เลื้อยคลานที่จะเข้ามารบกวนการทำสมาธิของพระพุทธองค์ จนกระทั่งสำเร็จโพธิญาณ แสงธรรมในการบรรลุนั้นได้แผ่ถึงพญาไก่แดงที่เฝ้าดูแลพระองค์ จนพญาไก่แดงสำเร็จเป็นโพธิสัตว์ขั้นหนึ่งแต่ยังต้องบำเพ็ญบุญแก่เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย
การทำความดีโดยเก็บฟางข้าวให้พระพุทธเจ้ารองนั่งและเฝ้าระวังสิ่งที่จะมารบกวนพระพุทธเจ้า ทำให้พอพระพุทธเจ้ากัสสะปะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้บุญบรรลุถึงขั้นเป็นโพธิสัตว์ที่เป็นเลิศด้านลาภยศ การเงิน ความมั่งคั่ง การเอาชนะศัตรู เร่งบุญ และเหนือผู้อื่นทั้งหมด ต่อมาพอสิ้นอายุขัยตามวัฏสงสาร พอสิ้นอายุ พระอรหันต์ผู้เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทำการปลงสังขารให้แก่พญาไก่แดงที่ริมหน้าผาสูง อัฐิเถ้าของพญาไก่แดงได้ไปเกิดเป็นว่านชนิดหนึ่งที่อยู่ที่หน้าผา ซึ่งเราเรียกว่าว่านพญาไก่แดง
ว่านพญาไก่แดง
ว่านพญาไก่แดงมีต้นกำเนิดสันนิษฐานว่าน่าจะอยู่ในประเทศพม่า ต้นกำเนิดวิชาว่านพญาไก่แดงมาจากพ่อครูพม่า ที่เป็นผู้สำเร็จแล้ว ความเป็นมามีดังนี้ พ่อครูพม่าองค์หนึ่งได้ทำการค้นคว้ายาที่เป็นเลิศด้านลาภสักการะสรรเสริญ ส่งผลในด้านเสริมดวงและเร่งบุญที่มนุษย์เคยสร้างเอาไว้นำมาใช้ในปัจจุบัน พ่อครูพม่าได้พบว่านชนิดหนึ่งจากการเข้าชาญสมาบัติ รูปพรรณสัณฐานออกเป็นลักษณะไม้ล้มลุกแบบว่านทั่วไปแต่ลำต้นเป็นเถาวัลย์ ต้นดังกล่าวอยู่บนหน้าผาสูงชัน การเก็บว่านชนิดนี้เป็นการยาก เพราะมีเทวดารักษาอยู่เป็นจำนวนมาก และการเก็บว่านต้องเก็บยามออกดอกเท่านั้นถึงจะได้คุณวิเศษครบสมบูรณ์
ความเป็นมาของว่านไก่แดง
พญาไก่แดงมีแหล่งกำเนิดที่พระธาตุอินทร์แขวน เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ซึ่งพบได้ที่เดียวในโลก การจะไปอัญเชิญพญาไก่แดงมาต้องเดินทางด้วยเท้าเพียงอย่างเดียวและต้องเดินข้ามเขาถึงสองลูก พญาไก่แดงมีกลิ่นหอมมาก มีความศักดิ์สิทธิ์และมีเทวดารักษา ต้องทำพิธีอย่างถูกต้องจึงจะอัญเชิญได้ หากทำผิดก็จะพบกับความวิบัติต่างๆ นานา
การครอบครองและการใช้ว่านพญาไก่แดง
การครอบครองว่านพญาไก่แดงไม่ใช่เรื่องง่าย และยิ่งครอบครองเพื่อเอามาช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ยังตกทุกข์ได้ยากนั้นต้องมีความเข้าใจความเป็นมาและวิธีการใช้ว่านพญาไก่แดงเป็นอย่างดี มิฉะนั้นอาจให้โทษมากกว่าให้คุณ
พิธีกรรมการอัญเชิญพญาไก่แดง
คุณสมบัติของผู้ที่จะไปอัญเชิญพญาไก่แดง คือ
- ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์
- ต้องกินเจอย่างน้อย 3–7 วัน
และต้องหาฝ้ายบริสุทธิ์มา 19 เส้น มัดรวมกันเตรียมไว้แล้วต้องหาจีวรของครูบาผู้ทรงศีลมามัดตรงหัวท้ายของเส้นฝ้ายด้วย
การทำพิธีอัญเชิญพญาไก่แดง ต้องจัดขันตั้งซึ่งประกอบด้วย
- กล้วยสามหวี
- มะพร้าวอ่อนหนึ่งลูก
- ฉัตรห้าอัน
- เงินสามบาท
- แตงโมหนึ่งลูก
- ข้าวเปลือกข้าวสาร
- ตุงห้าอัน
- ผ้าขาวรองพานกว้าง 1 ศอกยาว 4 ศอก
เมื่อทำขันตั้งเรียบร้อยแล้วผู้ถือขันตั้งต้องนุ่งขาวห่มขาว ส่วนผู้ที่จะทำการอัญเชิญปฏิบัติ ดังนี้
- ต้องนั่งยองๆไหว้สาขันตั้งแล้วบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาที่ปกปักรักษาพญาไก่แดงเสียก่อน
- เอาฝ้ายที่มัดเตรียมไว้มามัดที่ตัวเองด้านหนึ่ง โดยห้ามมัดตํ่ากว่าเอวและห้ามมัดสูงกว่าคอ
- ไต่หน้าผาลงไปอัญเชิญพญาไก่แดงขึ้นมาโดยเอาพานเงินพานทองรองรับ
- เอาผ้าขาวผ้าแดงมาคลุมมามัดไว้ด้วยสายสิญจน์ ขณะมัดต้องร่ายพระเวทย์ กำกับตลอดและห้ามผู้หญิงจับเด็ดขาด 46
- จุดธูป 9 ดอก เพื่อทำการอัญเชิญบริวารของพญาไก่แดง การอัญเชิญบริวารนั้นต้องลงท้ายด้วยเลขคี่แต่ห้ามเกิน 13 และผู้ที่ทำการอัญเชิญต้องโพกศีรษะด้วยผ้าขาว
หลังจากได้พญาไก่แดงมาแล้วต้องนำมาผสมกับบริวารที่อัญเชิญมาและต้องหาพญาไก่ขาวมาผสมลงไปด้วยเพื่อไม่ให้ฤทธิ์อำนาจของพญาไก่แดงเสื่อม จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อนพระธาตุคล้ายรูปเจดีย์เล็กๆและนำทองคำเปลว 100% มาปิดลงให้ทั่วแล้วจึงนำมาบูชาด้วยข้าวของและพระคาถาบูชาเฉพาะตามตำรา
ประเภทของพญาไก่ มี 4 ประเภท มีฤทธิ์เดช มีสรรพคุณและมีพิธีกรรมการอัญเชิญที่ต่างกัน ดังนี้
- พญาไก่แดง มีฤทธิ์ทางเสน่ห์อย่างรุนแรงอยู่ที่มัณฑเล อยู่ที่ประเทศพม่า
- พญาไก่เหลือง มีฤทธิ์ทางร่มเย็นเป็นสุข อยู่ที่ประเทศพม่า
- พญาไก่ดำ มีฤทธิ์ทางคงกระพันชาตรี อยู่ที่ประเทศไทย
- พญาไก่ขาว มีฤทธิ์ทางค้าขายโชคลาภ อยู่ที่ประเทศไทย
พญาไก่แดงเมื่อผสมกับพญาไก่ขาวจะทำให้มีฤทธิ์เดชอำนาจมากมาย ผู้ใดทำการสักจุณเจิมหรือครอบครองบูชาจะเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศ ทรัพย์สินเงินทองแต่ต้องปฏิบัติบูชาอย่างถูกต้องหากทำไม่ถูกต้องก็จะพบกับความวิบัติ
การพกพาพญาไก่แดงติดตัวเพื่อทำให้เจริญรุ่งเรืองในด้านทรัพย์สินเงินทอง มั่งมีศรีสุข มีโชคลาภ เจริญในหน้าที่การงาน ป้องกันคุณไสย แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทำได้ 2 วิธีคือ
- นำวัตถุมงคลที่มีส่วนผสมของพญาไก่แดงติดตัว
- สักจุณเจิมลงตามส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งจะเห็นผลไวกว่า (ไม่เกิน 3-7 วัน)
พิธีกรรมการสักจุณเจิมพญาไก่แดง
ผู้ที่จะทำพิธีสักจุณเจิมต้องอาบนํ้ามนต์ เพื่อขับไล่เสนียดจัญไรก่อน การสักต้องมีขันตั้งหรือขันครู ซึ่งประกอบด้วย
- เทียนขาว 10 เล่ม
- ธูป 10 ดอก
- ดอกไม้ 4 สี อย่างละ 3-5 ดอก
- เงินค่าครู 900 บาท
จากนั้นผู้ที่จะทำการสักต้องจุดธูป 5 ดอก แล้วยกขันตั้งหรือพานครู
ขึ้นอธิษฐานบอกกล่าวพ่อครูทุกท่านและรับสัจจะดังนี้
- ห้ามกินเนื้อวัว เนื้อควาย
- ห้ามกินกบ เขียด และสัตว์กระโดดทุกชนิด
- ห้ามกินงู
- ห้ามกินปู
- ห้ามกินเนื้อหมา เนื้อแมว
- ห้ามกินหอยทุกชนิด
- ห้ามผิดศีลข้อกาเม
- ห้ามกินหัวไชเท้าเพราะจะล้างตัวยา
- หลังจากสักจุณเจิมไปแล้วต้องกินเจอย่างน้อย 3-7 วัน
การสักพญาไก่แดงต่างกับการสักแบบคงกระพันชาตรีเพราะเป็นการสักเพียงจุดเล็กๆตามร่างกายไม่ได้เป็นอักขระหรือรูปยันต์
วิชาเขี้ยวแก้ว
- ก่อนออกจากบ้าน ให้ใช้ลิ้นแตะที่ฟัน โดยกลั้นใจเสกกี่จบก็ได้ เสกคาถา
- “สุวันณะโชตัง อะยังวาจา สุวรรณะ มะหัพพะลา มามามินัง”
- เวลาจะพูดกับใคร ก็ให้ว่าคาถานี้ในใจอีก 3 จบ
- “ชิวหา สุวันนัง นะมัตถุวาจัง ปิยังมะมะ”
วิชาหัวใจขุนแผน
ว่านะโม (3 จบ)
“เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ”
ใช้เสกสีผึ้งลิปสติก, แป้งผัดหน้า, เสกเสื้อผ้าใหม่ จะทำให้เพศตรงข้ามเมตตาเอ็นดูในตัวเรา ก่อนใช้จุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวอาจารย์ (หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตตาราม)
คาถาขุนแผน
โอมสิทธิศรีศรี ราศีกูงามคือท้องฟ้า
นะมะพะทะ หน้ากูงามคือพระแมน นะมะพะทะ แขนกูงามคือพระนารายณ์
นะมะพะทะ ฉายกูงามคือพระอาทิตย์ นะมะพะทะ ฤทธิ์กูงามคือพระจันทร์
นะมะพะทะ สาวในเมืองสวรรค์เห็นหน้ากูอยู่มิได้
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงต้นไม้ก็มางวยงง
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงพญาหงส์ ก็มาลืมถํ้าพระคูหา
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงพญาปลาอยู่ในนํ้าก็มาลืมแม่พระคงคา
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงมหาเสนา ก็มาลืมที่นอน
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงไก่อ่อน ก็ลืมแม่แล่นตาม
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงช้างพลายก็ลืมไพร
ฅนะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงสาวใช้ก็ลืมแม่
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงสาวแก่ ก็มาหลงใหล
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงเจ้าไท ก็มาลืมสวดมนต์
นะมะพะทะ กูจะรำลึกถึงฝูงชนก็มารักกูทุกถ้วนหน้า
นะมะพะทะ กูจะรำลึกทุกชั้นฟ้าและเทวดาทุกวิมาน
นะมะพะทะ โอมสิทธิสวาหะฯ
ติดต่อเรา
- สถานที่ : ถนน ปุณณกัณฑ์ ตำบล คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา 90110
- Facebook : Taifudo Academy – โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ
- Instagram : taifudoacademy.official
- Tiktok : Taifudo Academy
- Twitter : Taifudo Academy
- Youtube : @taifudoacademy
- LINE : Taifudo Academy
- เบอร์โทร : 083 923 4204
- เว็บไซต์ : www.taifudo.com
- แผนที่ : Taifudo Academy