ยูโด (ญี่ปุ่น: 柔道; โรมาจิ: jūdō) เป็นทั้งศิลปะการต่อสู้และกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย คะโน จิโงะโร ในปลายศตวรรษที่ 19 ยูโดมีความหมายว่า “ทางแห่งความอ่อนนุ่ม” หรือ “วิถีแห่งความอ่อนนุ่ม” เน้นการใช้เทคนิคการทุ่ม การล็อกข้อต่อ และการควบคุมคู่ต่อสู้ โดยการฝึกยูโดจะเน้นการใช้แรงของคู่ต่อสู้ให้เกิดประโยชน์และควบคุมด้วยทักษะ เทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงแต่ใช้ในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการป้องกันตัวในชีวิตประจำวันได้ด้วย
หัวข้อ
ยูโด (Judo) คืออะไร?
ยูโด (ญี่ปุ่น: 柔道; โรมาจิ: jūdō) เป็นทั้งศิลปะการต่อสู้และกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย คะโน จิโงะโร ในปลายศตวรรษที่ 19 ยูโดมีความหมายว่า “ทางแห่งความอ่อนนุ่ม” หรือ “วิถีแห่งความอ่อนนุ่ม” เน้นการใช้เทคนิคการทุ่ม การล็อกข้อต่อ และการควบคุมคู่ต่อสู้ โดยการฝึกยูโดจะเน้นการใช้แรงของคู่ต่อสู้ให้เกิดประโยชน์และควบคุมด้วยทักษะ เทคนิคเหล่านี้ไม่เพียงแต่ใช้ในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการป้องกันตัวในชีวิตประจำวันได้ด้วย
การกำเนิดของวิชายูโด
คะโน จิโงะโร ก่อตั้งสถาบันโคโดกัง ยูโด ในปี พ.ศ.2425 โดยนำเทคนิคการทุ่มจากยิวยิตสูมาผสมผสานและปรับปรุงให้เป็นระบบที่เรียกว่า “ยูโด” ยูโดเน้นการใช้แรงของคู่ต่อสู้เพื่อเอาชนะ และการฝึกฝนที่ปลอดภัยโดยตัดทอนเทคนิคที่อันตรายออกไป
เทคนิคของยูโดนาเงวาซา (Nagewaza)
เป็นเทคนิคการทุ่มที่ใช้การทุ่มคู่ต่อสู้ลงกับพื้น มีท่าทุ่มพื้นฐาน 12 ท่า และแบ่งออกตามส่วนของร่างกายที่ใช้ในการทุ่ม เช่น การทุ่มด้วยมือ การทุ่มด้วยสะโพก การปัดขา การทุ่มด้วยไหล่ การทุ่มด้วยสีข้างและหลัง
กะตะเมวาซา (Katamewaza)
เป็นเทคนิคการกอดรัด การจับยึด และการล็อกข้อต่อ ใช้ขณะอยู่บนพื้นเบาะ เทคนิคนี้แบ่งย่อยออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ โอไซโคมิวาซา (การกดล็อกบนพื้น), ชิเมวาซา (การรัดคอหรือหลอดลม), และคันเซทสึวาซา (การหักล็อกข้อต่อ)
อาเตมิวาซา (Atemiwaza)
เป็นเทคนิคการชกต่อย ทุบตี ถีบถองส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือพิการ เทคนิคเหล่านี้ใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวเท่านั้นและไม่เคยจัดการแข่งขัน
ระดับความสามารถของนักยูโด
ระดับความสามารถของนักยูโดแบ่งออกเป็น 2 ระดับใหญ่ คือ ระดับคิว (Kyu) สำหรับนักเรียน และระดับดั้ง (Dan) สำหรับผู้นำ โดยใช้สีของสายคาดเอวเป็นเครื่องหมาย ระดับคิวมีตั้งแต่สายขาวจนถึงสายสีน้ำตาล ส่วนระดับดั้งมีตั้งแต่สายดำจนถึงสายสีแดง
มารยาทและการแสดงความเคารพในยูโด
ยูโดเป็นวิชาที่เน้นความสุภาพอ่อนโยนและการสำรวมร่างกายและจิตใจ นักยูโดต้องมีมารยาทที่ดี เช่น ไม่พูดเสียงดัง ไม่กล่าวคำหยาบคาย ไม่ตลกคะนอง และไม่สูบบุหรี่ในสถานที่ฝึกฝน การแสดงความเคารพในยูโดมีทั้งการนั่งและการยืน ก่อนและหลังการฝึกต้องแสดงความเคารพต่อที่บูชาและคู่ฝึกซ้อม
การกำหนดระดับของนักยูโดในประเทศไทยกำหนดไว้ดังนี้
- รองสายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีขาว
- รองสายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีเขียว
- รองสายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีฟ้า
- รองสายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีน้ำตาล
- รองสายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีน้ำตาลปลายดำ
- สายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีดำ
- สายดำ ชั้น 6 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 7 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 8 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
- สายดำ ชั้น 9 สายคาดเอวสีแดง
- สายดำ ชั้น 10 สายคาดเอวสีแดง
สรุป
ยูโดเป็นศิลปะการต่อสู้และกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเทคนิคที่ซับซ้อน การฝึกฝนยูโดไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงและมีความสมดุล แต่ยังเสริมสร้างจิตใจให้มีสมาธิและความมั่นคง การปฏิบัติตามมารยาทและวิธีการแสดงความเคารพในยูโดยังช่วยพัฒนาบุคลิกภาพและการเคารพผู้อื่นในชีวิตประจำวัน
คำถามที่พบบ่อย
ยูโดแตกต่างจากยิวยิตสูอย่างไร?
ยูโดและยิวยิตสูมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นและมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ
- ยูโด : ยูโดเน้นการทุ่มคู่ต่อสู้และการใช้เทคนิคการล็อกข้อต่อ การฝึกซ้อมยูโดมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากได้ตัดเทคนิคที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงออกไป ยูโดยังมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันระดับสากล
- ยิวยิตสู : ยิวยิตสูเป็นการต่อสู้ที่เน้นการควบคุมคู่ต่อสู้และทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ด้วยการหักข้อต่อและการล็อกตัว มีเทคนิคที่หลากหลายและไม่มีข้อจำกัดในการใช้ ยูยิตสูบางสายยังคงมีการฝึกเทคนิคที่อาจเป็นอันตรายได้
การฝึกยูโดช่วยพัฒนาทักษะและคุณสมบัติใดบ้าง?
การฝึกยูโดมีประโยชน์หลากหลายทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- ความแข็งแกร่งและความทนทาน : การฝึกยูโดช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความทนทานของร่างกาย
- ความยืดหยุ่นและการทรงตัว : เทคนิคการทุ่มและการหลบหลีกในยูโดช่วยพัฒนาความยืดหยุ่นและการทรงตัวที่ดี
- สมาธิและการควบคุมตนเอง : ยูโดเน้นการฝึกสมาธิและการควบคุมจิตใจ ทำให้ผู้ฝึกมีความสามารถในการตัดสินใจและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว
- การเคารพและมารยาท : การฝึกยูโดสอนให้ผู้ฝึกมีความเคารพต่อครูอาจารย์และเพื่อนร่วมฝึก รวมถึงการปฏิบัติตามมารยาทและกฎระเบียบของโดโจ
การแข่งขันยูโดมีเกณฑ์และกฎกติกาอย่างไร?
การแข่งขันยูโดมีกฎกติกาที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยและความยุติธรรมในการแข่งขัน
- การแบ่งระดับน้ำหนัก : นักกีฬาจะถูกแบ่งตามระดับน้ำหนักเพื่อให้มีการแข่งขันที่เทียบเท่ากัน
- ระยะเวลาการแข่งขัน : การแข่งขันยูโดมีระยะเวลา 4 นาทีสำหรับผู้ชายและ 4 นาทีสำหรับผู้หญิง (ระดับสูงสุด) หากไม่มีผู้ชนะในเวลานั้น การแข่งขันจะต่อเวลาแบบ Golden Score
- การให้คะแนน : คะแนนในยูโดแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ Ippon (ชนะทันที), Waza-ari (ครึ่งคะแนน) และ Yuko (คะแนนเล็ก) ผู้ชนะคือผู้ที่ทำ Ippon ได้ หรือมีคะแนนรวมสูงสุดเมื่อหมดเวลา
- เทคนิคที่อนุญาตและห้ามใช้ : นักกีฬาสามารถใช้เทคนิคการทุ่มและการล็อกข้อต่อได้ แต่เทคนิคที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง เช่น การตีและการเตะ ถูกห้ามใช้ในการแข่งขัน
ยูโดเป็นกีฬาที่มีกฎกติกาและการฝึกฝนที่เน้นความปลอดภัยและความเคารพต่อคู่ต่อสู้ ทำให้เป็นกีฬาที่สามารถพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ฝึกได้อย่างเต็มที่
ติดต่อเรา
- สถานที่ : ถนน ปุณณกัณฑ์ ตำบล คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา 90110
- Facebook : Taifudo Academy – โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ
- Instagram : taifudoacademy.official
- Tiktok : Taifudo Academy
- Twitter : Taifudo Academy
- Youtube : @taifudoacademy
- LINE : Taifudo Academy
- เบอร์โทร : 083 923 4204
- เว็บไซต์ : www.taifudo.com
- แผนที่ : Taifudo Academy