Taifudo Academy

ความรู้เบื้องต้นในการปฎิบัติตัวพื้นฐานของไทฟูโด พร้อมคำปฏิญาณตน

หน้าแรก

ทั่วไป

Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ

ความรู้เบื้องต้นของไทฟูโดเป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว การปฎิบัติตัวพื้นฐานเน้นการฝึกซ้อมและสร้างจิตใจที่ดี

หัวข้อ

ความรู้เบื้องต้นในการปฎิบัติตัวพื้นฐานของไทฟูโด พร้อมคำปฏิญาณตน

ความรู้เบื้องต้นของไทฟูโด

ไทฟูโดเป็นศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวที่มุ่งเน้นการฝึกซ้อมทั้งร่างกายและจิตใจ การปฏิบัติตัวพื้นฐานเน้นที่การฝึกฝนและสร้างจิตใจที่ดี โดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

การแต่งกาย

การแต่งกายในการฝึกขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ทำการฝึกซ้อม ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่นั้นๆ เพื่อให้การฝึกเป็นไปอย่างเรียบร้อยและเป็นระเบียบ ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดหรือกระชับเกินไป เพื่อให้สามารถหายใจได้อย่างอิสระและสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยให้ฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สถานที่ฝึก

การฝึกฝนสามารถทำได้ทั้งในโรงฝึกที่กำหนดหรือสถานที่ออกกำลังกายที่เหมาะสม ควรเป็นที่โล่งแจ้งและมีอากาศถ่ายเทดี หากอยู่ในโรงฝึก สถานที่อาจมีหิ้งบูชาพระ พระบรมฉายาลักษณ์ ธงชาติ หรือภาพครูอาจารย์ เพื่อแสดงความเคารพและยึดเหนี่ยวจิตใจ ควรรักษามารยาทและปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ รวมถึงช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย

พิธีก่อนการฝึก

ก่อนการเริ่มฝึกศิลปะป้องกันตัวไทฟูโด เมื่อผู้นำฝึกหรืออาจารย์เรียกรวมผู้ฝึกแล้ว ควรเคารพทำความเคารพ

หิ้งบูชาพระหรือโต๊ะหมู่บูชา
พระบรมฉายาลักษณ์ธงชาติ (ถ้ามี)
รูปเคารพของครูบาอาจารย์และอาจารย์ผู้สอน ตามลำดับ

สิ่งที่ผู้ฝึกควรรู้

เมื่อเริ่มเรียนมวย ควรปฏิบัติตามคำสั่งของครูอาจารย์ ไม่ควรด่วนสงสัย
ไม่ควรใช้แรงตามความเคยชินในการฝึก ควรผ่อนคลายและมีสมาธิ
ควรฝึกท่าหรือสองท่าต่อวัน หมั่นทบทวนซ้ำๆ จนเกิดความชำนาญ

ข้อพึงกระทำ

เคารพบิดามารดาและผู้มีพระคุณ
เชื่อฟังครูบาอาจารย์
ให้เกียรติและซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น

ระเบียบมารยาทสำหรับผู้ฝึก

เคารพและให้เกียรติต่อกัน แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ความรัก การให้อภัย และน้ำใจต่อเพื่อนและครูบาอาจารย์
เชื่อฟังคำแนะนำและเคารพต่อครูบาอาจารย์
รักษาความสามัคคีและช่วยเหลือกัน
ไม่ล้อเล่นหรือสร้างความรำคาญในขณะฝึกซ้อม
ไม่เสพของมึนเมาหรือสิ่งเสพติดในขณะที่มาฝึกซ้อม
ไม่สวมใส่อุปกรณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, นาฬิกา, แหวน, เล็บมือเล็บเท้ายาวควรตัดแต่งให้เรียบร้อย

ประโยชน์จากการฝึกไทฟูโด

เข้าใจหลักการป้องกันตัวและความอ่อนน้อมถ่อมตน
สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงให้กับตนเอง
เสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ

จุดมุ่งหมายของการเผยแพร่ไทฟูโด

ให้ผู้ฝึกรู้จักและเข้าใจหลักการป้องกันตัวและปรัชญาในศิลปะต่างๆ
เข้าใจประโยชน์ของการฝึกฝน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในหมู่ผู้ฝึก
ยกระดับและพัฒนาเผยแพร่ศิลปะฯ ให้แพร่หลายและอนุรักษ์เจตนารมณ์ของอาจารย์

การทำความเคารพ

ความหมายทั้ง 5 ของนิ้วมือ ได้แก่
1. บิดามารดา, ญาติพี่น้อง
2. ครูบาอาจารย์, ผู้มีพระคุณ
3. เพื่อน, ศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนัก
4. คนรัก, ภรรยา
5. ชาติ
มือขวาที่กำหมัด หมายถึง ความสามัคคี, การป้องกันคุ้มครอง, ความหนักแน่, การร่วมกัน ฯลฯ
มือซ้ายที่แบมือ หมายถึง ฟ้า, ดิน ความหมายทั้ง 5 ของนิ้ว, ทวิลักษณ์ ปลายนิ้วที่ชี้ขึ้น หมายถึง ฟ้า สันข้อมือ หมายถึง ดิน
การประสานมือกัน หมายถึง หน้าปกป้องคุ้มครองบุคคลทั้ง 5 ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแต่เราจะไม่มีวันเปลี่ยน อีกความหมายคือ การแสดงความเคารพความนอบน้อมการอ่อนน้อมถ่อมตน

การหายใจของไทฟูโด

การหายใจของไทฟูโด มี 4 แบบ ดังนี้

1. การปรับลมปราณหรือการปรับลมหายใจ (ปรับลมปราณสามระดับ)

ลมปราณคือการหายใจที่ช่วยปรับสภาพระบบการหายใจให้กลับสู่สภาวะปกติ การปรับลมปราณยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลาย การเดินลมปราณหรือการปรับลมปราณ 3 ระดับในไทฟูโดมีดังนี้:

ขั้นแรก: สูดลมหายใจเข้าปอด ทรวงอกยืดขยายออก
ขั้นที่สอง: เมื่อปอดและทรวงอกขยายออกแล้ว สูดหายใจเข้าไปอีกเพื่อยืดกระบังลม ชายโครงทั้งสองข้างจะขยายออก
ขั้นที่สาม: สูดลมหายใจเข้าไปจนผนังท้องยุบเข้าไป

เมื่อทำครบทั้ง 3 ขั้นแล้ว ให้ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ จนผนังท้องกลับสู่สภาพปกติ การฝึกนี้ควรทำอย่างน้อย 3 ครั้งในช่วงตื่นนอนตอนเช้า และในช่วงเวลาก่อนและขณะฝึก ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 9 ครั้ง เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการเหนื่อยหลังจากการฝึกออย่างน้อย 9 ครั้ง เพื่อผ่อนคลายอาการเหนื่อยหลังจากการฝึก

2. การรีดลมปราณ

การรีดลมปราณเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อเร่งการทำให้เกิดกำลัง คลายอาการจุก และเตรียมพร้อมในการเข้าต่อสู้ เทคนิคนี้ยังช่วยให้รู้สึกสบายตัวและสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ขั้นตอนการรีดลมปราณมีดังนี้

สูดลมหายใจเข้าปอด ทรวงอกยืดขยายออก
สูดลมต่อจนกระบังลม (ชายโครงทั้งสองข้าง) ขยายออก
สูดลมต่อจนผนังท้องยุบเข้าไป
เมื่อทำครบทั้ง 3 ขั้น ให้รีดลมออกจากปาก โดยผนังท้องจะยุบเข้าจนกล้ามเนื้อท้องเริ่มเกร็ง ไล่ลมออกมาเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ จนลมเกือบหมดปอด และรีดกำลังลมจนตัวเกร็งไปทั้งร่างจนถึงสั่นไปทั้งตัว

3. การอัดลมปราณ

เการอัดลมปราณเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อเพิ่มแรงกระแทกและเตรียมการโจมตี รวมถึงการรำต่อเนื่อง มีขั้นตอนดังนี้

สูดลมหายใจเข้าสู่ปอด ทรวงอกขยายออก
ห่ออกและเกร็งร่างกายช่วงบน
กลั้นหายใจ คล้ายการปิดทวารทั้ง 9

การใช้งาน

เวลาโจมตี : ผ่อนลมหายใจออกตามธรรมชาติทางจมูกตามกำลังแรงกระแทกหรือออกกำลังหมัดและเท้าจนหมดลมหายใจ หรือในขั้นเตรียมการโจมตีชุดใหม่หรือขึ้นท่าใหม่
เวลารับแรงกระแทก : เมื่อรับแรงกระแทกเสร็จแล้ว ค่อยผ่อนลมหายใจออก

4. การคลายลมและการถอนหายใจ

การคลายลมและการถอนหายใจเป็นเทคนิคเพื่อการผ่อนคลายหลังการฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกรำท่า การเดินลมปราณ หรือหลังจากรู้สึกเหนื่อย มีขั้นตอนดังนี้

สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
ผ่อนลมหายใจออกทางจมูกเรื่อย ๆ จนหมดลม
หรือผ่อนลมหายใจออกทางปากทีละน้อยจนหมดลม
หายใจเข้าไปใหม่จนรู้สึกผ่อนคลาย

ในการฝึกการหายใจในลักษณะท่ายืน ทุกท่าจะต้องใช้หลักการหมุนเป็นเกลียว เริ่มจากฝ่าเท้าดูดแรงจากพื้นขึ้น ส่งแรงผ่านท่อนขาเข้าสู่สะโพก ขึ้นสู่เอว ผ่านทางด้านหลังของตัว แล้ววนขึ้นไปทางศีรษะและวกลงมายังลำตัวด้านหน้า

ส่วนในการรีดลมเกร็งกำลัง เมื่อดึงกำลังขึ้นสู่เอวแล้ว ให้ดึงเข้าสู่กระบังลม ขึ้นสู่ทรวงอก จากนั้นรีดลมออกท้องน้อย ไล่ขึ้นไปจนร่างกายรู้สึกเกร็งไปทั้งตัว

หลักการหายใจ 2-3 แบบ ใช้ในลักษณะของการเก็งกำลัง รับการปะทะกระแทก และรำมวยแบบส่งกำลังต่อเนื่อง

คำปฏิญาณ 6 ข้อของไทฟูโด

คำปฏิญาณ 6 ข้อของไทฟูโดเป็นกฎและหลักการที่ผู้ฝึกในโรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธต้องปฏิบัติตาม เพื่อสร้างความเสียสละและเสริมสร้างจิตใจที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น คำปฏิญาณนี้ควรปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการฝึกศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัว

คำปฏิญาณนี้ไม่เพียงสอนให้ผู้ฝึกปฏิบัติตามหลักธรรมและมีความมุ่งมั่นในการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนและสังคม แต่ยังเป็นที่นับถือและเป็นแนวทางที่ผู้ฝึกควรยึดถือในการดำเนินชีวิตทุกวัน