Taifudo Academy

ประวัติยูโด (Judo)

ประวัติยูโด (Judo)
two-judokas-fighters-fighting-men (2) (Web H)

ยูโด (Judo) เป็นศิลปะการต่อสู้และกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น มีความหมายว่า “ทางแห่งความอ่อนนุ่ม” ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาและแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังการฝึกฝน ยูโดถูกพัฒนาขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 โดยท่านคะโน จิโกะโร (Kano Jigoro) จากศิลปะการต่อสู้โบราณที่เรียกว่า ยิวยิตสู (Jujutsu) ยูโดมุ่งเน้นการใช้ทักษะในการทุ่มและล็อกคู่ต่อสู้ โดยไม่ใช้ความรุนแรง ท่านคะโน จิโกะโรได้ปรับปรุงเทคนิคและแนวคิดเพื่อให้ยูโดกลายเป็นกีฬาที่มีความปลอดภัยและเป็นระเบียบ นอกจากนี้ ยูโดยังเป็นการฝึกจิตใจและเสริมสร้างคุณธรรม จนกระทั่งกลายเป็นกีฬาสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ประวัติยูโด

วิชายิวยิตสู (Jujutsu)

ก่อนการกำเนิดของยูโด วิชายิวยิตสูเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการต่อสู้ในระยะประชิดและการใช้มือเปล่า มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บและยอมแพ้โดยการจับและหักข้อต่อร่างกาย นักรบญี่ปุ่นในยุคโบราณต้องฝึกฝนยิวยิตสูเพื่อเตรียมตัวสำหรับสงคราม นอกจากนี้ยังต้องฝึกสมาธิเพื่อให้สามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาวิชายิวยิตสูเป็นยูโด

ในช่วงปลายยุคเซ็งโงะกุ ยิวยิตสูได้ถูกพัฒนาและรวบรวมไว้เป็นแบบแผน ต่อมาในยุคเมจิ ญี่ปุ่นได้รับอารยธรรมตะวันตกเข้ามา ทำให้ยิวยิตสูถูกมองว่าเป็นสิ่งล้าสมัยและทารุณ คะโน จิโงะโร เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงยิวยิตสูให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดยการนำเทคนิคที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาผสมผสานกัน กลายเป็นวิชายูโด

การกำเนิดวิชายูโด

คะโน จิโงะโร ก่อตั้งสถาบันโคโดกัง ยูโด (Kodokan Judo) ในปี พ.ศ.2425 โดยนำเทคนิคการทุ่มจากยิวยิตสูมาปรับปรุงและพัฒนาเป็นยูโด ท่านเน้นการใช้แรงของคู่ต่อสู้เพื่อเอาชนะ และการฝึกฝนที่ปลอดภัย โดยตัดทอนเทคนิคที่อันตรายออกไป ยูโดเน้นการฝึกซ้อมที่สามารถใช้ได้จริงในการป้องกันตัวและในการแข่งขัน

ลำดับเหตุการณ์

  • 2425 คะโน จิโงะโร ก่อตั้งสถาบันโคโดกัง สำหรับใช้ฝึกอบรมวิชายูโดที่ศาลาในบริเวณวัด เออิโซ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน
  • 2429 ตำรวจนครบาลแห่งโตเกียว จัดการแข่งขันระหว่างนักยูโดของโคโดกัง และนัก ยิวยิตสูของสำนักต่าง ๆ จากการแข่งขัน 15 ครั้ง นักยูโดของสำนักโคโดกัง ชนะถึง 13 ครั้ง จึงทำให้ยูโดของโคโดกังได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพมากกว่ายิวยิตสูของสำนักอื่น ๆ
  • 2436 ย้ายสำนักโคโดกัง จากวัดเออิโซ ไปตั้งที่ ซิโมโทมิกาซา
  • 2476 ย้ายจาก ซิโมโทมิกาซา ไปตั้งที่ถนนซุยโดมัดซีในกรุงโตเกียว
  • 2485 ก่อตั้งสหพันธ์ยูโด (Judo Federation)
  • 2499 ก่อตั้งสหพันธ์ยูโดระหว่างชาติ
    • จัดการแข่งขันเพื่อความชนะเลิศยูโดระหว่างประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก
    • สร้างภาพยนตร์เรื่อง Master of judo
two judokas fighters fighting men 3 Web H

การยอมรับและการพัฒนาในระดับสากล

ในปี พ.ศ. 2429 กรมตำรวจญี่ปุ่นจัดการแข่งขันระหว่างยูโดกับยิวยิตสู ผลการแข่งขันปรากฏว่ายูโดชนะ 13 ครั้ง และเสมอ 2 ครั้ง ทำให้ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ เริ่มให้ความสนใจและยอมรับยูโดมากขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 ยูโดได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย และกลายเป็นศูนย์กลางของนักยูโดทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2455 ได้ก่อตั้งสหพันธ์ยูโดระหว่างประเทศ (International Judo Federation) ขึ้น โดยมีประเทศต่าง ๆ ที่ร่วมก่อตั้งประมาณ 20 ประเทศ ยูโดได้ถูกบรรจุเข้าเป็นกีฬาสากลและจัดการแข่งขันเพื่อความชนะเลิศระหว่างประเทศขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2499

เทคนิคของยูโด

เทคนิคของวิชายูโดแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มดังนี้

1. นาเงวาซา (Nagewaza)

นาเงวาซาเป็นเทคนิคการทุ่มที่ใช้ในการทุ่มคู่ต่อสู้ลงกับพื้น มีท่าทุ่มพื้นฐาน 12 ท่า และแบ่งออกตามส่วนของร่างกายที่ใช้ในการทุ่ม เช่น การทุ่มด้วยมือ การทุ่มด้วยสะโพก การปัดขา การทุ่มด้วยไหล่ การทุ่มด้วยสีข้างและหลัง

2. กะตะเมวาซา (Katamewaza)

กะตะเมวาซาเป็นเทคนิคการกอดรัด การจับยึด และการล็อกข้อต่อ ใช้ขณะอยู่บนพื้นเบาะ เทคนิคนี้แบ่งย่อยออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ โอไซโคมิวาซา (การกดล็อกบนพื้น), ชิเมวาซา (การรัดคอหรือหลอดลม), และคันเซทสึวาซา (การหักล็อกข้อต่อ)

3. อาเตมิวาซา (Atemiwaza)

อาเตมิวาซาเป็นเทคนิคการชกต่อย ทุบตี ถีบถองส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือพิการ เทคนิคเหล่านี้ใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวเท่านั้นและไม่เคยจัดการแข่งขัน

ระดับความสามารถของนักยูโด

ระดับความสามารถของนักยูโดแบ่งออกเป็น 2 ระดับใหญ่ คือ ระดับคิว (Kyu) สำหรับนักเรียน และระดับดั้ง (Dan) สำหรับผู้นำ โดยใช้สีของสายคาดเอวเป็นเครื่องหมาย

การกำหนดระดับของนักยูโดในประเทศไทย

  1. รองสายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีขาว
  2. รองสายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีเขียว
  3. รองสายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีฟ้า
  4. รองสายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีน้ำตาล
  5. รองสายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีน้ำตาลปลายดำ
  6. สายดำ ชั้น 1 สายคาดเอวสีดำ
  7. สายดำ ชั้น 2 สายคาดเอวสีดำ
  8. สายดำ ชั้น 3 สายคาดเอวสีดำ
  9. สายดำ ชั้น 4 สายคาดเอวสีดำ
  10. สายดำ ชั้น 5 สายคาดเอวสีดำ
  11. สายดำ ชั้น 6 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
  12. สายดำ ชั้น 7 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
  13. สายดำ ชั้น 8 สายคาดเอวสีขาวสลับแดง
  14. สายดำ ชั้น 9 สายคาดเอวสีแดง
  15. สายดำ ชั้น 10 สายคาดเอวสีแดง

สถานที่ฝึก (โดโจ)

สถานที่ฝึกยูโดควรมีพื้นที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทได้สะดวก พื้นปูด้วยเบาะ (Tatami) ที่ยืดหยุ่นพอดี เบาะควรมีขนาดยาว 6 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และหนา 4 นิ้ว การปูเบาะควรปูบนพื้นไม้ที่ยกสูงเพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า ไม่ควรปูบนพื้นซีเมนต์หรือพื้นดินโดยตรง

เครื่องแต่งกาย (ยูโดงิ)

เครื่องแต่งกายในการฝึกยูโดเรียกว่า Judoji ซึ่งมีลักษณะดังนี้

  • เสื้อ : คล้ายเสื้อกิโมโน ทำจากด้ายดิบสีขาว หนาและแข็งแรง ทนทาน แต่ไม่ลื่นมือ
  • กางเกง : คล้ายกางเกงจีน ทำจากผ้าดิบเช่นกัน ที่เอวมีเชือกรัด กางเกงต้องหลวมและยาวประมาณครึ่งขาท่อนล่าง
  • สายคาดเอว : ผ้าเย็บซ้อนกันหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาวพอที่จะคาดเอวได้ 2 รอบ และเหลือชายข้างละ 15 เซนติเมตร

มารยาทของนักยูโด

นักยูโดต้องมีมารยาทที่ดี เคารพต่อสถานที่และครูอาจารย์ เช่น:

  • ไม่พูดเสียงดัง
  • ไม่กล่าวคำหยาบคาย
  • ไม่ตลกคะนอง
  • ไม่สูบบุหรี่ในสถานที่ฝึก
  • ไม่สวมรองเท้าขึ้นบนเบาะยูโด

วิธีการแสดงความเคารพ

การแสดงความเคารพในยูโดมี 2 วิธี คือ นั่งและยืน

  • เมื่อถึงสถานที่ฝึก ต้องแสดงความเคารพสิ่งที่ตั้งบูชาประจำสถานที่
  • ก่อนเริ่มฝึก เมื่อขึ้นบนเบาะต้องแสดงความเคารพต่อที่บูชาอีกครั้ง
  • ก่อนเริ่มฝึกซ้อมและหลังจากยุติการฝึกซ้อมต้องเคารพกัน
  • ก่อนเลิกฝึกและเมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้ว ก่อนกลับต้องแสดงความเคารพที่บูชาอีกครั้ง

ยูโดไม่เพียงแต่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่เสริมสร้างร่างกายและจิตใจ แต่ยังเป็นการฝึกฝนให้มีความสุภาพและเคารพต่อผู้อื่น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถนำหลักการและมารยาทของยูโด

สรุป

ยูโดเป็นศิลปะการต่อสู้และกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเทคนิคที่ซับซ้อน การฝึกฝนยูโดไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงและมีความสมดุล แต่ยังเสริมสร้างจิตใจให้มีสมาธิและความมั่นคง การปฏิบัติตามมารยาทและวิธีการแสดงความเคารพในยูโดยังช่วยพัฒนาบุคลิกภาพและการเคารพผู้อื่นในชีวิตประจำวัน ยูโดไม่เพียงแต่เป็นกีฬาที่เน้นความแข็งแรงของร่างกาย แต่ยังเป็นวิถีชีวิตที่สร้างสมดุลและความเคารพในทุกด้านของชีวิต

ติดต่อเรา

หมวดหมู่ : ทั่วไป
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ

ติดต่อบ้าน ต่อเติมครัว

บทความและข่าวสารอื่นๆ

Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
หลานไฉ่เหอ (藍采和; แต้จิ๋ว: น่าไชหัว, ฮกเกี้ยน: หน่าไฉฮัม) เป็นหนึ่งใน โป๊ยเซียน (八仙) หรือแปดเซียนผู้เ...
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
หานเซียงจื่อ (韓湘子; ฮกเกี้ยน: ฮั้นเจียวจู้) เป็นหนึ่งใน โป๊ยเซียน (八仙) หรือแปดเซียนแห่งลัทธิเต๋า ผู้ม...
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
หลี่เถียไกว่ (李鐵拐; กวางตุ้ง: เหล่ยทิดกวาย, แต้จิ๋ว: ลี้ทิก๋วย, ฮกเกี้ยน: ลี่ทิกุย) หรือที่รู้จักในชื...
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
เหอเซียนกู (何仙姑; แต้จิ๋ว: ฮ่อเซียนโกว, ฮกเกี้ยน: เฮอเซียนก๊อ) หรือที่รู้จักในชื่อ “นางฟ้าเหอ&#...
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
ลฺหวี่ ต้งปิน (呂洞賓; แต้จิ๋ว: ลือท่งปิน, ฮกเกี้ยน: ลีตงปิ่น) เป็นหนึ่งใน โป๊ยเซียน (八仙) หรือแปดเซียนใ...
Taifudo Academy - โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ หรือ ไทฟูโด รับรองหลักสูตรโดยกระทรวงศึกษาธิการ
จงหลีเฉฺวียน (鐘离權; กวางตุ้ง: จงสิดขือ, ฮกเกี้ยน: เจี๋ยงตีควน) เป็นหนึ่งใน โป๊ยเซียน (八仙) หรือแปดเซีย...